Reflection:

14 พ.ค. 67 - ได้เรียนรู้อะไร และจะนำไปใช้อย่างไร จากหลักสูตร เทคนิคการสื่อสารสานสัมพันธ์ชั้นเลิศ

- เรียนรู้การฟังความคิดของคนอื่น - เทคนิคการสื่อสารกับคนอื่น - รู้จุดอ่อนของตัวเองสามารถปรับปรุง
1 เรียนรู้ การเจราต่อรอง 2 เรียนรู้บริหารความขัดแย้ง 3 การฟังที่ดี
1.เรียนรู้ตัวเอง และผู้อื่นที่ปฏิสัมพันธ์ด้วย 2.รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นไม่ปิดกั้น 3.แก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อชัยชนะร่วมกัน
ได้เรียนรูัทางด้านความคิด อ่านใจคนอื่น การสื่อสารการต่อรอง การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ใช้ในการการโน้มน้าว การเจรจา หรือการรับฟัง จากคนอื่น การคิดวิเคราะห์ก่อนที่สื่อสาร การใช้ภาษา
ได้เรียนรู้เรื่องการสื่อสาร การใช้ภาษากาย คำพูด และการนับถือยกย่องให้เกียรติผู้อื่น การพูดเชิงบวก สามารถนำไปใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวันได้
NLP ได้วิธีในการพัฒนาตัวเองให้มีความสุขและบรรลุเป้าหมายทุกอย่างด้วยการใช้ประสาทสัมผัส กรองความคิด คำศัพท์เชิงบวก การตั้งเป้าหมายในชีวิต การเข้าใจตัวเอง การรับฟังผู้อื่น พูดในสิ่งที่บวก การสื่อสารความสัมพันธ์ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับทุกคน เพื่อดึงดูดคนที่ดีเข้ามาในชีวิต
รู้จุดอ่อนตัวเองและการใช้ กฏ 3 ข้อ ทำให้การสื่อสารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การพูด ต้องรู้จักคิดก่อนพูด รู้จักพูดทั้งในฐานะทั้งผู้นำเป็นผู้ตาม รู้จักการยกย่อง นับถือ และให้เกียรติ รู้จักฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
ได้รับวิธีการ การสื่อสารที่ทุกคนพึงมีคือการสื่อสารเชิงบวก เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกบวกและนำไปสู่พฤติกรรมที่เราต้องการหรือคาดหวัง
เป็นเทคนิคในด้านการสื่อสารที่ใช้ได้กับศาสตร์ทุกแขนก ไม่ว่าจะใช้สำหรับการนำเสนองาน การพูด การเขียน เพื่อทำให้ผู้ที่เราต้องสื่อการสารด้วยสนใจและเข้าใจได้ง่าย. อะไรคือปัญหา ? แนวทางแก้ไขคืออะไร ? สิ่งที่อยากให้คนฟังจดจำคืออะไร ? สามารถนำมาใช้กับการทำ Present เช่น 1. เริ่มขึ้นต้นเรื่อง 2. กลางเรื่อง 3. สรุป
1.การจะให้บรรลุเป้าคือสิ่งสำคัญ 2.เพื่อเป้าหมายต้องอาศัยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ถ่ายทอดขัดเจน ทั้งท่าทาง คำพูด 3.การนำเสนอโน้มน้าวที่หวังผล
1. มีเป้าหมาย 2. ความคิด ลดการขัดแย้ง 3.ลดการขัดแย้ง ทำลายกำแพง สร้างโอกาส
รู้จักตนเองก่อนรู้จักคนอื่น ,คิดวิเคราะห์ก่อนการสื่อสารเพื่อป้องกันการสื่อสารที่มีอคติและลดความขัดแย้ง ,ใช้คำพูด น้ำเสียงภาษากายสื่อสารในเชิงบวกเพื่อง่ายต่อการประสานงานกับผู้อื่น
1. คิดเชิงบวก 2. รู้เขารู้เรา 3. ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนการสนทนา
คิดก่อนพูด การยอมรับฟังความเห็นผู้อื่น เอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งที่ทำงาน และส่วนตัวค่ะ ทำให้มีต้องคิดมากขึ้น ก่อนที่จะพูด เพราะผลกระทบมันเยอะมาก จากคำเพียงคำไม่กี่คำ
1. เทคนิคการเข้าถึงหัวหน้า เพื่อนรวมงาน 2. การเข้าใจตัวเอง และผู้อื่น ประมวลผลแล้วค่อยแสดงความคิดเห็น 3. การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
1 การโน้มน้าวจิตรใจผู้อื่น 2. การใช้คำพูดเชิงบวก 3 การเจราจาต่อรอง
การเป็นผู้ฟังที่ดี ในการสื่อสารการเป็นผู้ฟังที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ หากมีผู้ส่งสาร แต่ไม่มีผู้รับสาร สารที่ต้องการส่ง ต้องการสื่อสารจะไร้ซึ่งคุณภาพ การสื่อสารที่ดี การใช้ภาษากาย น้ำเสียง และคำพูดที่ดีเหมาะสม ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิ์ภาพ การเข้าใจผู้ที่รับสาร การที่จะสื่อสารให้ผู้รับสารหรือผู้ฟังได้ประโยชน์สูงสุดคือการเข้าใจว่าผู้ฟังคิดอย่างไร ทำให้เราสื่อสารได้ตรงจุด
การฟัง เข้าใจ ถ่ายทอด รวมทั้งการคลี่คลายความขัดแย้ง มีเจตนาที่ดีต่อกัน
1.เรียนรู้การฟังความคิดเห็นของคนอื่นให้มากขึ้น 2.เทคนิคใน พูดการสื่อสารกับบุคคลอื่น 3.รู้จุดอ่อนของตัวเองที่เราต้องนำไปปรับปรุงการทำงานร่วมกับคนอื่นๆ
เรื่องการสื่อสารสัมพันธ์ ทำให้เกิดการรับฟัง เข้าใจผู้อื่นมากขึ้น และกระหนักถึงการสือสารกับผู้อื่นในเชิงบวก
ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ระบบทางด้านความคิด อารมณ์ ทางกายภาพ และวิธีการพูดให้ไปทางด้านบวก/ลบ จะนำไปใช้งานกับการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน
การฟังด้วยความเข้าใจ การเสริมในบางจุด การประสานสัมพันธ์ที่ดี
1. การสื่อสารด้วยคำพูด น้ำเสียง ภาษากาย 2. การเข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่น สื่อสารให้เข้าใจทั้งผู้พูดและผู้ฟัง 3. การตั้งใจฟัง ไม่ด่วนสรุป ไม่พูดแทรก ให้เวลาผู้พูดได้อธิบาย
1.ยอมเป็นคนแพ้ในบางครับ 2.รู้เขารู้เรา 3.ยอมรับ นับถือ ยกย่อง ให้เกียรติ
ใช้กฎ3ข้อ โดยรวมกันแล้วสื่อสาร ด้วยความพูด ความคิดเห็นที่เห็นต่าง เป็นในแง่บวกแง่ลบ ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ่ง ทั้ง2ฝ่ายจะเข้าใจและสื่อสารไปแนวทางที่ดี และมีผลประโยชน์ต่อตัวบุคคล เพื่อนร่วมงาน และระหว่างหน่วยงาน จะไปในแนวทางเดียวกันกับองค์กร
เรียนรู้การพูดโน้มน้าวใจ ไม่บังคับหรือกดดันคนฟังเกินไป โดยสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยการเอาหลีกเลี่ยงการเอาชนะ ต้องรู้จักการชนะร่วมกัน เราชนะเขา เขาชนะเรา ได้อย่างเสียอย่างกันทั้งคู่ จะทำให้ชีวิตมีความสุขและร่วมงานกันได้อย่างมีความสุข
การนำเสนอ มีความสัมพันธ์ที่ดี การเจรจาต่อรอง
คิดก่อนพูด วิเคราะห์ เพื่อรักษาน้ำใจและสร้างแรงจูงใจ ชอบทั้ง 3 หัวข้อเลย การยอมรับฟังความเห็นผู้อื่น
ชอบเรื่องสุดท้าย ในการโน้มน้าวใจ ตอบโจทย์ในการทำงาน ที่ในบางครั้งมีความขัดแย้ง และเห็นต่างกัน และยังถนอมความสัมพันธ์ที่ดี ที่มีอยู่ได้
1.ความรู้ความเข้าใจการรับรู้ด้านการสื่อสาร 2.การสื่อสารเชิงบวก 3.การรับฟังและการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ
มีความคิดและคำพูดในเชิงบวก/เป็นผู้ฟังที่ดี/ทำความเข้าใจตนเองอย่างจริงใจ
1. filter สมอง ทำงานแบบไดบ้าง 2. ตั้งเป้าหมาย อนาคต/การทำงาน 3. ความคิดด้าน บวก ต้องรวมถึง ภาษกาน น้ำเสียง คำพูด
ได้สิ่งที่ความใช้ในการสื่อสารของการทำงาน การใช้ความคิด การพูด ใช้จินตนาการ การฟัง ให้เราได้สามารถถ่ายทอดสิ่งที่เราคิดเเเละสื่อสารออกมาได้ดีขึ้น
1.ชอบการเรียนเกี่ยวกับการสื่อสาร น้ำเสียง ภาษากาย เป็นการแสดงออกกับคนที่เราสนทนาด้วย โดยที่เมื่อพัฒนาได้ เป็นการจูงใจและโน้วน้าวคนได้อีก ทำให้ทักษะกรพูด เจรจาดีขึ้น
1 การคิดก่อนพูด 2 การสื่อสารอย่างถูกวิธี 3 การลดความขัดแย้ง
ได้เรียนรู้ที่จะจัดการความคิดตัวเองในเชิงบวก การเข้าอกเข้าใจผู้อื่น การให้ความสำคัญกับทุกความเห็นต่าง
สื่อสารอย่างไรให้คนสนใจเเละเข้าใจในสิ่งที่สื่อสารด้วยน้ำเสียงเเละท่าทางเเละการนำเสนอที่มีรูปแบบน่าสนใจดึงดูดผู้ฟังรวมถึงการพูดอย่างไรไม่ให้กระทบผู้ฟัง
การฟัง ความเข้าใจ และการสื่อสาร
การคิดเชิงบวกและการสื่อสารในด้านบวก สามารถสร้างบรรยากาศที่ดีและทัศนคติที่ดีสำหรับการสื่อสาร ทำให้เกิดผลดีและประโยชน์ทั้งผู้สื่อสารเองและผู้รับสารด้วย
ได้เรียนรู้ถึงโครงสร้างหลักของมนุษย์ในการสื่อสารสัมพันธ์คือ สมอง ภาษาหรือสื่อที่ใช้และข้อมูล ซึ่งหากเราต้องการผลของการสื่อสารอย่างต้องคำนึงถึงสิ่งสำคัญ 3 อย่างนี้ เนื่องจากสมองมีทั้งคิดด้านบวกและลบ สื่อหรือภาษาก็ต้องให้ถูกกับผู้ฟังสุดท้ายข้อมูลที่ป้อนเข้าไปต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสมกับผู้ฟัง จึงจะทำให้ผลของการสื่อสารสัมพันธ์มีผลออกมาแบบที่ต้องการ
ทำให้เข้าใจความรู้สึกของคนรอบข้างได้มากว่าไม่มีใครคิดเหมือนเราทุกอย่าง สมารถสื่อสารในการทำงานให้ดีขึ้น และเปิดรับฟังเรื่องต่างๆได้ดีขึ้นโดยไม่มีอคติ
เรียนรู้เรื่อง การพูดเชิงบวก เพื่อนำไปใช้ในสังคม โดยต้องมองทั้ง 2 ด้านเปิดโอกาสรับฟังอย่างตั้งใจ และเมื่อถึงเวลาพูดก็ใช้คำพูดที่เป็นเชิงบวก
ได้รับรู้ถึงวิธีการสื่อสารด้วยคำพูดอารมณ์ท่าทางและการยับยั้งหยุดคิด แล้วค่อยสื่อสารออกไปจะเกิดผลดีกับผู้ที่เรากำลังสื่อสาร
การพูดเชิงบวก ทำให้รู้สึกดีต่อภาพบรรยากาศในการสนทนา ทำให้ทำสิ่งตางๆได้ดีขึ้น
การใช้การสื่อสารที่เหมาะสม ทั้งภาษากาย น้ำเสียง คำพูด การปฏิบัติต่อผู้อื่นและตัวเองเพื่อพัฒนาความสำพันธ์ในเชิงบวก และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในการใช้ชีวิต
ได้เรียนรู้ ตั้งเป้าหมาย ฟังและเข้าใจอื่นให้มาก ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมๆ กับคนอื่นๆ
การคิดเชิงบวกเป็นการคิดที่มีเเต่ผลดีไม่มีผลลบซึ่งต่อมาคือการสือสารซึ่งการสือสารจำเป็นต้องสื้อสารให้เข้าใจสือสารให้ตรงจังหวะสือสารให้ครบถ้วนนั่นคือการสือสารที่ถูกต้องเเละการนำใจเค้ามาใส่ใจเราคือการคิดก่อนที่จะพูดเพื่อไม่ให้กระทบต่อบุคคลอื่น
ได้การรับฟังความคิดเห็นทั้งด้า. นบวก/ลบ ไม่ว่าฝ่ายผู้พูดกับผู้ฟัง สื่อสารตรงไปตรงมา ให้เข้าใจร่วมกันเป็นเสียงเดียวกัน การใส่ใจในรายละเอียดของแต่ละประโยค คำพูด ซื้อจะทำให้เกิดผลดี และประโยชน์กับทั้ง2ฝ่ายเป็นอย่างมาก
รับฟังทุกสิ่งที่เขากำลังพูดอธิบายอย่าเลือกรับฟังเฉพาะสิ่งที่เราอยากฟังเพราะบางทีเขาอาจจะพูดไม่เก่งแต่พยายามสื่อสารให้เราเข้าใจจริงๆ
สร้างพจนานุกรมสมองให้มีคำศัพท์เชิงบวกเยอะๆ ทำให้มีทัศนคติในเชิงบวก มองอะไรในแง่ดีจะส่งผลให้ทำเรื่องต่างๆได้ง่ายขึ้น ,เรียนรู้และเข้าใจตนเอง ก่อนที่จะเข้าใจผู้อื่น เพื่อที่จะสามารถทำให้ผู้อื่นเข้าใจเรา
เรียนรู้การสื่อสารรูปแบบต่าง เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานร่วมกับบุคคลในองค์กร
เรื่องการฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและการสื่อสารเชิงบวก
เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีมากขึ้น เมื่อก่อนเป็นคนที่ฟังแล้วสมองชอบไปคิดเรื่องอื่นบ่อยๆ จึงทำให้ไม่เข้าใจผู้พูดดีพอ
ได้รู้หลักของการพูด การรับฟัง เพื่อจะได้สื่อสารได้โดยไม่มีแรงต้านจากผู้ที่ร่วมสนทนา ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการทำงาน และสัมพันธภาพที่ดีในองกรณ์
การสังเกตุถึงรายละเอียดต่างๆ การคิดเชิงบวก การสื่อสารแบบถูกต้องมีประสิทธิภาพ กระบวนการคิดแยกแยะการรับฟังความเห็นของผู้อื่น
ในการสื่อสาร หัวใจหลักๆ คือการเป็นผู้ฟังที่ดี มีน้ำเสียง คำพูดและภาษากายในเชิงบวก เข้าใจในการความคิดสิ่งที่ตัวเองต้องการสื่อ ต้องเข้าใจผู้ที่เราจะสื่อสาร และให้เขาเข้าใจในสิ่งที่เราสื่อถึง โดยเนื้อหาที่พูดถึงควรเป็นข้อเท็จจริง ไม่ใส่ความ
รู้การพูดในเชิงบวก การสื่อสารทั้งภาษากายและภาษาพูด รวมถึงการรับฟังและการปฏิบัติต่อคนรอบข้างมากขึ้น
การรู้จักตนเอง รู้จักผู้อื่น มีการรับฟัง และทำความเข้าใจ เปิดรับความคิดเห็นการสื่อสารชั้นเลิศ สร้างความวางใจให้กับผู้อื่นคลี่คลายความขัดแย้งโดยใช้หลัก 5 ประตู โน้มน้าวใจใช้กลยุทธ์เหนี่ยวนำด้วยคำถามหรือ limited offer การเจรจาต่อรองและการนำเสนอโดยหลัก rule of three และมีการถ่ายทอดที่ดีที่เหมาะสม จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการร่วมงานกับผู้อื่น เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
เข้าใจความคอดความรู้สึกของคนรอบกายมากขึ้น
ปรับเปลี่ยนแนวความคิด รับฟังความคิดจากผู้ใต้บังคับบัญชา
การฟังคนอื่นให้มาก เข้าใจคนอื่นให้มาก และให้กำลังใจ
ความสำคัญของการฟัง การเป็นผู้ฟังที่ดี เข้าใจผู้อื่น
พัฒนาการสื่อสารกับทีมงานให้เกิดสภาวะการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
ได้รับการฝึกการรับฟัง การคิดการพูด การวางตัวเรา ในการแสดงตัวต่อคนอื่น
เก็บการคิดก่อนพูดการเข้ากับผู้อื่นต้องคิดหน้าเเละหลังต้องเข้าใจความรู้สึกของผู้ฟังที่พูดออกไป
เข้าใจผู้อื่น การสื่อสารเชิงบวก
ได้รู้ถึงการรับฟัง การเปิดรับ และการสื่อสารเชิงบวก
เข้าใจความรู้สึก ความคิด ของคนรอบข้างมากขึ้น ว่าแต่หล่ะคนแตกต่างกัน ไม่มีใครคิด หรือ รู้สึกเหมือนเรา ซึ่งเราจะเอาความคิดความรู้สึกเรามาวัดไม่ได้ เราควรมีใจเป็นกลางมองภาพรวมหลายๆมุม ในทุกๆเรื่องของเขา ต่างคนต่างมุมมอง บางทีเรามองเป็น 9 เขาอาจมองว่า 6 อยุ่ที่มองฝั่งไหน ไปตัดสินเขาว่าไม่คิดเหมือนเรา ก็ไม่ถูก สรุปคึอ ลดอคติในทุกเรื่องของเราได้เยอะเลยคะ
การพัฒนาทักษะความคิด การสื่อสาร การควบคุมอารมณ์และการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น
ได้เรียนรู้จักความคิด การควบคุมอารมณ์ รับฟังความเห็นของคนอื่น
Filter ได้เรียนรู้ว่ามีบางครั้งเราเหมารวมความคิดและตัดสินคนอื่นโดยใช้รูปแบบเดียวกันกับทุกคนทำให้ในการทำงานบางครั้งเราสื่อสารหรือทำความเข้าใจกับคนอื่นไม่ตรงกัน
หลักการปรับตนเข้าหากับเพื่อนร่วมงาน
ทำให้เราเกิดความคิดว่าสิ่งที่เราพบเจอในทุกๆวันส่งผลอย่างไรกับตัวเรา สิ่งไหนที่ควรนำมาปรับใช้ สิ่งไหนที่ควรปล่อยมันไป เช่นอคติทางความคิดที่จะทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายที่เราตั้งใจวัน ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ความคิด การมองเห็นในมุมมองต่างๆมากขึ้น ให้เราได้เป้าตั้งเป้าหมายในด้านต่างภายในปี 2024
รู้จักการรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
ได้รู้ความหมายของ NLP และนำมาใช้ในการทำงาน
ได้เรียนรู้ประสิทธิภาพสมอง การสื่อสาร ประสาทสัมผัส เพื่อมาประยุกต์ใช้พื่อการทำงาน เปรียบเทียบแลกเปลี่ยนทางความคิดของแต่ละบุคคล
NLP ผมมองว่าเป็นแนวคิดแบบนึงที่จะมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราเองหรือแนวคิดต่างๆ รวมถึง นำมาปรับมุมมองของตัวเราเอง ผมชอบในเรื่องของสมองของเรามีการ Delete ทำให้เราต้องมีการตั้งเป้าหมายระยะสั้นระยาว เพื่อเป็นการย้ำเตือนตัวเราว่าเรายังอยู่ในเส้นทางของเป้าหมายที่เราตั้งไว้หรือไม่ เเละ ในเรื่องของ การปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นเข้าใจในมุมมองว่าคนเรามีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกันควรที่จะรับฟังเเละเข้าใจในความคิดเห็นของผุ้อื่น
ความคิดของเเต่ละคนค่อยข้างทีจะเเตกต่างจึ่งต้องปรับเปลี่ยนความคิดของตนเองให้ไปในทิศทางเดียวกัน นั้นคือการสื่อสารกันเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาไม่ยึดติด
ได้รับรู้ความคิด แนวทาง ของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน สามารถนำไปปรับเปรียบแนวทางการใช้ในการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน
1. ลบความรู้ที่เคยรับมาก่อนหน้านี้ทิ้งไปก่อน ก่อนที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ 2. อย่าเหมารวมทางความคิด ว่าคนอื่นๆจะเป็นเหมือนกันหมด 3. เรามีการรับรู้ที่บิดเบือนได้
การตั้งเป้าหมาย โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์
จากการเรียนได้ความรู้เรื่องการสื่อสารจากการวิเคราะห์ข้อมูลและการทำงานของสมองที่ส่งผลต่อการรับรู้และเข้าใจ
เรื่องความคิดที่ไม่ควรเปรียบเทียบคน ที่เห็นต่างหรือมีความแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ เพราะแต่ละคนพื้นฐานอาจจะไม่เหมือนกัน
ได้รู้ถึงวิธีการตั้งเป้าหมาย
การสื่อสารที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นของทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต ,การทำงานร่วมกัน ,การแก้ปัญหา หรือแม้ในงานเฮฮาปาร์ตี้ซึ่งถ้าเริ่มต้นด้วยสิ่งที่ดีก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
การสื่อสาร ร่วมกัน การแสดงออก ทำให้พูดคุยและทำความเข้าใจกับการสนทนา
สื่อสารตรงประเดน รับฟังและ แขร์ความคิดเห็น เพื่อให้ตรงเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์
ไม่ด่วนตัดสินเรื่องราวต่างด้วยการมองเห็นแบบผ่านๆ
ได้ทราบถึง หลักการการทำงานของสมอง ตามความหมายของ NLP ทำให้เราสามารถนำหลักการดังกล่าวมาปรับใช้เพื่อให้เกิดการสื่อสาร การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง รวมถึงทำให้เรารู้เท่าทันความคิดของตนเอง มีมุมมองใหม่ๆ มีความคิดที่เป็นด้านบวกมากยิ่งขึ้น รู้จักกำจัดความคิดด้านลบ และนำมาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นรอบตัว
ได้ทักษะการคิด การสื่อสารกับสมอง เพื่อให้เข้าใจตัวเองและคนรอบตัวมากขึ้น
นำการสื่อสาร และการคิดวิเคราะห์ไปปรับใช้กับผู้ใต้บังคับบัญชา
ได้เรียนรู้การสื่อสาร ให้เกิดประโยชน์ กระบวนการทางความคิด คือ ความคิดที่ดีที่สุด คือ ความคิดที่ปรับแก้ได้
การทำงานของสมอง ช่องทางการรับข้อมูล
การใช้ภาษาสื่อสารที่ทำให้เราจดจำเเละย้ำคิดจากการเห็นรูปเเละเสียง 2 อย่างนี้ทำให้เกิดการการเข้าใจจากการสื่อสารได้ดีเเละจดจำได้มาก เเละการที่ได้รับคำชมนั้นจะจดจำได้ไม่นานกว่าคำติชม ส
ได้เรียนรู้ในการปรับวิธีการคิดและมุมมองให้ดีขึ้นกว่าเดิม ในบางครั้งเราอาจจะมองแค่เส้นตรงเพื่อพุ่งไปหาเป้าหมาย จนลืมมองสิ่งรอบข้างระหว่างทาง ว่าเราได้เจอ ได้เรียนรู้อะไรบ้าง ใครให้บทเรียนอะไรกับเรา เราให้บทเรียนอะไรกับเค้า
ได้วิธีคิด วิธีสื่อสาร ที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานและชีวิตประวันได้
ได้รู้เกี่ยวกับหลักพื้นฐานของความคิดของแต่ละตัวบุคคล เพื่อเป็นหลักในการจะไปสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานหรือคนรอบข้างได้อย่างถูกต้องและเข้าใจกันและกัน
N = Neuro L = Linguistic P = Programming การสื่อสารสานสัมพันธ์ ผ่านการฟัง - ความเข้าใข - การถ่ายทอด
การพัฒนาตนเองเชิงบวก
การทำงานของ สมอง มี 3 filter การตั้งเปล่าหมาย
action = reaction
ความเห็นเราไม่ได้ถูกเสมอ เราต้องสามารถปรับเปลี่ยนความคิดและยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นหรือผู้ใต้บังคับบัญชาได้
การพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ ร่วมถึงการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาวะที่สามารถตัดสินใจได้อย่างมีปะสิทธิภาพในการทำงาน
ดูแลและพูดคุยกับทีมงาน
ได้รู้การสื่อสาร การคิดวิเคราะห์
สัมผัส สมอง ตัวกรอง
การตั้งเป้าหมาย จะทำให้ชีวิตแต่ละวันมีจุดหมาย
ความคิดดีที่สุด คือความคิดที่ปรับแก้ได้
Delete distrort and Filter
ได้รู้จักการทำงานของ Filter ในสมอง