Reflection:

12 ก.ค. 66 - ได้เรียนรู้อะไร และจะนำไปใช้อย่างไร จากหลักสูตร เทคนิคการสื่อสารสานสัมพันธ์ชั้นเลิศ

1. การเข้าใจตัวเองและผู้อื่นและประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธอภาพ 2. การสื่อสาร การใช้ภาษากาย น้ำเสียงและคำพูดในทิศทางเชิงบวก 3.การใช้การโน้มน้าวใจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ค่ะ

1. ใช้ภาษากายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนองาน 2. ใช้คำศัพท์เชิงบวกเพื่อให้มีความสุขในการทำงาน 3. เข้าใจและมีสติกับตัวเองมากขึ้น และจะนำไปใช้เพื่อเข้าใจผู้อื่น

เข้าใจการสื่อสารได้อย่างเข้าใจ รวมถึงวิธีการสื่อสาร

1. ฝึกการกลั่นกรอง ความคิด การประมวลผลของสมอง 2. ฟังให้เข้าใจ คิด วิเคราะห์ ก่อนนำเสนอ 3. นำเสนอให้ครบถ้วน พร้อมคำแนะนำ

ทักษะการสื่อสาร การสังเกตุ

การรับฟังผู้อื่น การเข้าใจตนเอง การถ่ายทอดให้ผู้อื่น

nlp ประสาธ ระบบภาษา ป็อนข้อมูล การใช้ คำพูด นำ้เสียง ภาษากาย

เป็นผู้ฟังที่ดี นำไปสู้ความคิดดีๆ ทำให้สำเสร็จได้ครับ

1.ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ NLP 2.หลักการสื่อสาร ใช้เทคนิกต่างๆ ทางการฟัง สร้างตอม่อ สร้างสะพาน 3.การนำเสนอสิ่งต่างๆ

ใช้การรับฟังและนำเสนอ ใช้คิด และกลั่นกรอง เพื่อการทำงานร่วมกัน โดยใช้การสื่อสารและเปิดใจ การเป็นผู้ฟังที่ดี

เรียนรูัการรับฟัง ความคิดเห็น

ทราบทักษะวิธีในการคลี่คลายความขัดแย้ง , การเจรจาต่อรองต้องมีเทคนิค สิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจ ต้องมีจังหวะในการตั้งคำถามและความเงียบก็มีผลต่อการตัดสินใจด้วยเหมือนกัน

ได้เรียนรู้เทคนิคในการโน้วน้าวใจ โดยใช้เทคนิคในการสร้างบรรยากาศ สถานที่ พูดถึงความสำเร็จในอดีต เพื่อให้ผู้ฟังได้โน้วน้าวคล้อยตามผู้พูด เทคนิคการคลี่คลายความขัดแย้ง โดยการใช้เทคนิคสร้างความประทับใจหรือกล่าวชื่นชมผู้อื่น เพื่อลดกำแพงในการลดความขัดแย้ง

1.มีการรับฟัง การเข้าใจอย่างเป็นระบบ 2.เป็นแนวทางเพื่อได้เรียนรู้ถึงการฟังและเข้าใจผู้อื่น

การเรียนรู้ในวันนี้มีประโยชน์อย่างมาก สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันกับครอบครัว กับเพื่อนร่วมงานและสังคมรอบข้าง เพื่อให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นทุกวัน

NLP-การเลือกใช้ประสาทสัมผัส, การกรองของสมอง และ การเลือกใช้ศัพท์เชิงบวก การสื่อสารเพื่อสานสัมพันธ์-การรับฟังมากขึ้น, การทำความเข้าใจ และการถ่ายทอดออกมา การสื่อสาร- ภาษากาย น้ำเสียง และคำพูด

1.การสื่อสาร 2.การใช้ความคิดและจินตนาการ 3.การโน้มน้าว

1. การคิดเชิงบวก 2.การรับฟังเพื่อให้เกิดประโยชน์ 3.การถ่ายทอดและส่งต่อ

ใด้ประการใช้ชีวิตกับเพื่อนร่วมงานและทำให้สื่อสารอย่างเข้าใจตนเองและเพื่อนร่วมงาน

1.เรื่องการทำงานของสมอง และการสื่อสาร 2.การคิดและการสื่อสารเชิงบวก 3. การสื่อสารเพื่อโน้มน้าว

1. สามารถโน้มน้าวและทำลายกำแพงซึ่งกันและกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน 2. เพื่อสามารถเจรจาต่อรอง เพื่อให้ได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย 3. เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและ Win Win ทั้งคู่

1.การคิดอย่างเป็นระบบ 2.การปรับปรุงตัวเองตามสภาพสิ้งแวดล้อม หากต้องการให้ตัวเองเป็นแบบควรนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพเเวดล้อมแบบนั้น 3.เข้าใจกระบวนการทำงานในด้านการเจรจา

1.ได้เรียนเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายการใช้ชีวิต 2.เรียนเกี่ยวกับกระบวนการทางความคิด 3.เทิคนิค การฟัง การสร้างแรงจูงใจ การปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่น

การสื่อสาร อารมณ์ ความรู้สึก ที่แสดงกับคนรอบข้าง

เทคนิคการสื่อสาร 3 หัวข้อ น้ำเสียง ภาษากาย คำพูด การฟังเพื่อทำลายกำแพง ไม่ว่าจะเป็นของตัวเองหรือผู้พูด ฟังเพื่อให้เขาแสดงความคิดออกมา และฟังเพื่อเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อ

ประสาทสัมผัส ลำดับการสื่อสาร การสื่อสารสัมพันธ์ การเจรจาต่อรองโน้มน้าวจิตใจ

1.สร้างเนื้อหากระชับเข้าใจง่าย และการสร้างการมีส่วนร่วม 2.เรียงลำดับการอธิบาย 3.สรูปจุดสำคัญเชิงความคิดสร้างสรรค์

1.การเรียนรู้ระบบการคิด ความคิดที่ดีที่สุดคือความคิดที่ปรับเปลี่ยนได้ 2.การพูด คิดก่อนพูด ควบคุมความคิด 3.การยอมรับฟัง ไม่ตัดบท ไม่สรุป ตามที่ตัวเองคิด

เข้าใจใน การเป็นผู้นำประชุม

เรียนรู้เรื่องของการรับฟัง การใช้คำเสียงในการพูด ความคิดในการที่จะสื่อสารออกไป

หลักในการใช้สมองและประสาท ความคิด มีการวางเป้าหมายในการดำเนินงาน หลักในการเจรจาต่อรอง และการนำเสนอ

การสื่อสาร การสื่อสารสัมพันธ์ การสื่อสารชั้นเลิศ

1.การรับฟัง 2.การเข้าใจ 3.การถ่ายทอด

การฟังทลายกำแพงความคิดแบบเก่าๆได้

เรียนรู้ถึงการรับฟัง การเข้าใจในเรื่องของข้อเท็จจริงและอารมณ์ เพื่อที่จะถ่ายทอดออกไปได้อย่างเหมาะสม

เปิดใจรับฟังในเรื่องที่คนอื่นจะสื่อ เป็นกลาง ไม่ซักถามให้มากเกินความเหมาะสม และคอยให้คำปรึกษา เเนะนำในสิ่งต่างๆ

คิดในทางที่ดี ก่อนการสื่อสารออกไปให้คนฟังรู้สึกดี

ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญในการฟัง การเข้าใจตัวเองและผู้อื่น และถ่ายทอดออกมาเป็นข้อเท็จจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เข้าใจการสื่อสารในเชิงบวกและเชิงลบเพื่อนำไปใช้กับเพื่อนร่วมงานในองกร์ และครอบครัว

เข้าใจเรื่องการสื่อสารและเรื่องความสำคัญของการฟังมากขึ้น

ฟังคนอื่นถึงเราจะเร่งรีบขนาดไหน รู้จักรอความเงียบเราจะทราบความจริง

ได้เรียนรู้การเข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่นเพื่อเป็นแนวทางให้เราได้ปรับปรุงเพื่อการสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจเรา จะนำไปใช้ในเรื่องการทำงานเป็นทีมเพื่อให้มรประสิทธิภาพมากขึ้น

ใช้หลักการสื่อสารแบบใจเขาใจเรา เปิดใจให้มากกว่าเปิดหูฟัง คิดทบทวนก่อนจะพูดอะไร มองหาผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะจิตใจ หรือความเสียหายอื่นๆ

ได้เรียนรู้เรื่องการฟัง จะนำไปพัฒนาให้สามารถเป็นผู้ฟังที่ดี มีสติ คิดวิเคราะห์ ก่อนการพูด เพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริหารงานอย่างเป็นกลาง

การสื่อสารที่ถูกต้องต้องตามข้อเท็จจริง

ใด้เรียนรู้ การสื่อสาร ที่ทำให้มีประสิทธิ์ภาพ ใช้ใด้กับทุกๆสถานะการ

เรื่องการพูดก่อนคิด ไม่ตัดบท สรุปความคนอื่น โดยใช้ความคิดตัวเองไปตัดสินคนอื่น ไม่บลูรี่คนอื่นทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ สรุป คิดก่อนพูด ฟังให้มาก

สามารถสื่อสารสัมพันธ์ได้ดีขึ้น เข้าใจเรียนรู้ดูข้อเท็จจริงได้อย่างชัดเจน

การฟังเพื่อทำลายกำแพง

ให้เป็นผู้รับฟังที่ดีและพร้อมเปิดใจในหลากหายความคิกเห็นที่อาจจะไม่ตรงกับเรา แต่ต้องหาจุดที่สามารถดำเนินการร่วมกันได้

กำแพง : การทำงานเป็นทีม ใช้ได้ดีมากพราะจะสร้างความร่วมมือได้แบบมืออาชีพ

เรื่องทัศสคติในการทำงาน ที่ต้องใช้เรื่องของการคิดก่อนพูด การให้ข้อมูลในทางที่ถูกต้องไม่ต้องตัดสินใจแทนใคร

ได้ความชัดเจนของการแยกแยะระหว่าง พูดแบบข้อเท็จจริง กับ พูดแบบใช้อารมณ์

การสื่อสารมีหลายทาง ซึ่งสามารถสื่อได้ทั้งเชิงบวกและลบ

สร้างเสริมนิสัยการสร้างพลังบวกให้ตัวเองละคนรอบข้าง

NLP เข้าใจสัมผัส ตัวกรอง คำศัพท์ เชิงบวก

เข้าใจเรา เข้าใจคนอื่น สื่อสานสัมพันธ์ได้ดีขึ้นครับ

ได้เทคนิคในเรื่องการสื่อสารเชิงบวก เพื่อลดความขัดแย้งในปัญหาที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน จะนำมาใช้ในเรื่องการปรับอารมณ์ การทำงานเป็นทีม และสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีกับลูกน้อง

ได้เรียนรู้ถึงวิธีที่จะปรับเรื่องของการใช้ความคิดการใช้คำพูดน้ำเสียงและท่าทางในการแสดงออกกับคนอื่นๆได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

การฝึกใช้คำศัพย์เชิงบวก ภาษากายที่ดี น้ำเสียงที่ดีและการใช้คำพูดที่ดี จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเราและผู้อื่นเป็นอย่างมาก

เข้าใจการสื่อสารมากขึ้นและภาษากายสำคัญที่สุด ได้ข้อคิดว่าเราควรใช้ภาษากายในเชิงบวกยิ้มให้มากๆ ในสังคมปัจจุบันที่มีความร้อนมากๆ พูดเชิงบวกมากๆ และ ใจเย็นให้มากๆ

การแสดงท่าทางมีผลมากกว่าคำพูด

การพูดบวก คิดบวก ทำให้มีการดำเนินชีวิตในทางบวก ภาษาในการสื่อสารที่มีผลตามลำดับ

เรียนรู้การใช้ภาษาท่าทาง นำ เสียง เชิง บวกและเชิงลบ

ภาษากายสำคัญที่สุด สำหรับการสื่อสาร

การแสดงออกทางการสื่อสาร และการเรียนรู้บุคคลอื่น เพื่อปรับใช้ตามสถานการณ์ต่างๆ

พัฒนามนุษย์สัมพันธ์

คิดในแง่บวก เข้าใจความคิดส่งผลต่อการดำเนินชีวิต

การแสดงภาษากาย น้ำเสียง ในการสื่อสาร

คิดบวก คิดดี จะได้ทำดี

ภาษากาย และคำพูดเชิงบวก ลบ

การแสดงออกทางภาษากาย น้ำเสียง คำพูด

ตั้งสติและคิดก่อนที่จะทำอะไรในแต่ละครั้งพร้อมทั้งได้รู้ถึงวิธีการตั้งเป้าหมายในแต่ละความคิดด้วย

การปรับตัวเพื่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพื่อพัฒนาตัวเอง

ได้มุมมองการแก้ไขปัญหา บางปัญหาเราแก้ไม่ได้ แต่คนอื่นอาจมีความคิดที่ดีกว่า อย่าเอาตนเป็นที่ตั้ง

สามารถเข้าใจเเละ เรียนรู้ที่จะมุ่งไปในเป้าหมาย ของตัวเอง

แนวคิดในมุมมองการคิดเชิงบวก และการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

การสื่อสาร ในด้านต่างๆ เพื่อกำหนดกรอบความคิดเพื่อจะจัดการกับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายที่กำหนดไว้ รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ให้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสมองประมวลผลออกมาเป็นความคิดและสามารถแสดงออกมาได้อย่างเหมาะสม

การสื่อสาร แบบสัมผัส การสื่อแบบที่เราถนัด

การเห็นของจริงและลงมือทำคือการสื่อสารที่ประสบค์ความสำเร็จมากกว่าการได้การคุยกัน

ความหมายของ NLP ประสาทสัมผัส มีทั้งหมด 5 อย่าง คือ ตา หู จมูก ปาก สัมผัส ตัวกรอง มีทั้งหมด 3 อย่าง คือ ลบ บิดเบือน เหมารวม

ประสาทสัมผัส การสั่งการของสมองให้จดจำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แล้วประมวลผลออกมา การจดจอกับสิ่งใดสิ่งนึงเป็นพิเศษ การประมวลผลออกมาของสมอง ทั้งในเชิงบวก และลบ

ฝึกให้คิด ให้จิตนาการ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันและถ่ายทอดให้คนอื่น

NLP ภาษาสื่อสาร กับสมอง ให้เกิดประโยชน์

เนื้อหาเบรคเเรก (ช่วงเช้า) - ความหมายของ NLP - การรับรู้ประสาทสัมผัส

ได้รู้ความหมายของ NPL รู้จักตัวกรองในสมอง ในเรื่องการสื่อสาร กับสังคมภายนอก สิ่งที่ได้ในการเรียนช่วยในเรื่องการมีมุมมองในการสื่อสาร การตั้งเป้าหมายต่างๆ การจัดระเบียบความคิดที่ดีขึ้น

การประมวนผลทางสมอง การมองโลกในแง่ต่างๆ ธรรมชาติของความคิดมนุษย์

เรียนรู้ตัวกรองในสมอง กระบวนการ วิธีการคิด ความคิดแตกต่าง นำไปปรับใช้กับแต่ละบุคคล บางอย่างคิดแบบแยกแยะไม่เหมารวม

การสื่อสาร ประสาทสัมผัส

NLP ประสาธสัมผัส ตัวกรอง

สังเกตสิ่งรอบข้าง

เรียนรู้การสื่อสารสัมพันธ์ความรู้สึกต่างๆรอบตัว

ตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง เพื่อกำหนดในการปฏิบัติ ระยะสั้น - ระยะยาว

เรียนรู้ประสามสัมผัสต่าง ความถนัดในการใช้ประสาทนั้นๆของแต่ละบุคคล การกรองของสมองและระบบต่างๆ

การเรียนรู้การสื่อสาร การสัมผัส

คิดบวก ในมุมมองการทำงาน

ได้ลองสังเกตุตัวเองและรอบข้าง

ประสาทสัมผัส การตั้งเป้าหมาย ความอคติ การบิดเบือน การเหมาๆรวม

เรียงลำดับ มองด้วยเหตุผล มีความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

การตั้งเป้าหมาย

ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสมอง ความคิด การนำไปปรับใช้ ในการทำงาน

การใช้สมอง การกลั่นกรอง การสื่อสาร และการฝึกคิดและสังเกตุนอกกรอบ

แง่คิด วิธีการคิด วิธีการสื่อสาร กระบวนการวิเคราะห์

การจดจำสิ่งต่างๆ

การจัดลำดับความคิด การใช้สมองในการคิด