Reflection:

7 ก.ย. 66 ได้เรียนรู้อะไรและนำไปใช้อย่างไร จากหลักสูตร Leading Adaptive Team

เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองจากเริ่มจากสิ่งเล็กๆไปเรื่อยๆ จนพัฒนาได้มากขึ้น และเป็นเซฟโซนที่มีความปลอดภัยให้กับน้องๆให้น้องกล้าเปิดใจมีส่วนร่วมเป็นทีมที่ดี
ยอมรับในการเปลี่ยนแปง เรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดแล้วนำไปแก้ไข การเป็นผูนำที่ต้องยอมรับคำแนะนำ ของลูกน้อง
ตั้งเป้าหมาย และต้องปฎิบัติให้ได้ตามเป้า กล้าถาม กล้าตอบ กล้าบอกว่ายังไม่รู้
1.Atomic Habits จะนำไปทำในชีวิตจริง คำพูดอาจารย์ทำให้อยากกลับไปเรียนภาษอังกฤษอีกครั้ง *อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับคนที่เขาฝึกเป็นสิบๆปี ฝึกกับตัวเองกัดไม่ปล่อย* 2.เริ่มการเปลี่ยนตัวเอง จากสิ่งเล็กๆทำให้ต่อเนื่อง 3.สร้างความเชื่อใจในทีม เพื่อได้รับข้อมูลที่แท้จริงมาพัฒนา
1.การที่จะเป็นผู้นำที่ดี ต้องทำอย่างไรบ้าง 2.หากอยากให้ลูกน้องในทีมเก่ง เราต้องทำให้เขาเห็นเป็นแบบอย่าง 3.สร้างความเป็นกันเองให้พอเหมาะ เพื่อที่ลูกน้องจะได้กล้าเข้ามาพูด กล้าเข้ามาบอกหากงานเกิดมีการผิดพลาด
กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงให้เกิดการรับฟังผู้อื่นมากกว่าการต่อต้าน และการทำงานเป็นทีม ภาวะการเป็นผู้นำที่มีน้ำใจ กล้าแสดงออกกล้าถามกล้ารับฟัง
1.ต้องตั้งเป้าหมายและตั้งใจพยามยามทำในทุกๆวัน 2.ต้องกล้าคิด กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าถามตอบ กล้าที่จะลงมือทำและมีส่วนร่วมในทีม
ได้เรียนรู้ทักษะการเป็นหัวหน้างานที่ดี การปรับตัวและพัฒนาศักยภาพ มุมมอง แนวทาง ที่จะนำไปสู่การทำงานร่วมกับผู้อื่นและการจัดการตนเอง
แนวคิดปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพื่อพัฒนาตัวเองกล้าถาม กล้าตอบ กล้าลงมือนำ
การพร้อมการเปลี่ยนแปลง การมีวิธีที่ดีในการทำงาน การขอคำแนะนำจากคนอื่น การมีน้ำใจ เข้าใจคนอื่น ความคิดที่ต่างกัน การกล้ายอมรับความจริง
มีการตั้งเป้าหมายที่ัชัดเจนเพื่อให้เห็นการเปลี่ยนเแปลง พยายามตั้งคำถามเพื่อพัฒนาตัวเอง ให้สามารถไปพัฒนาทีมงานต่อไปได้
การเป็นผู้นำที่ดีต้องเปิดโอกาสให้ทีมได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น สามารถแนะนำได้ เพื่อเป็นการต่อยอดทางความคิด
ได้มีการกล้าที่จะพูดคุยและแสดงความคิด กล้าถาม กล้าตอบ สงสัยในเรื่องที่ไม่เข้าใจ ทำความเข้าใจได้ดี สนุกกับงานที่ทำและทีมงาน
มีเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วทำสิ่งนั้นสม่ำเสมอ ทุกๆวัน เป้าหมายนั้นก็จะสำเร็จ
ได้เรียนรู้การคุยกันในทีม การตั้งคำถามในทีมให้มากขึ้น การรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆเพื่อให้งานออกมาดียิ่งขึ้น
ทำให้กล้าลงมือทำ มีส่วนร่วมในทีม กล้าแสดงออก กล้าถาม และกล้าตอบ มีข้อเนอแนะ
ทำให้เรามีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มีเป้าหมายในสิ่งที่จะลงมือทำ
ภาระการเป็นผู้นำที่ดี การเปิดโอกาสให้กับทุกคน การเรียนรู้สิ่งต่างๆ
ทำให้มีความเป็นผู้นำมากขึ้น กล้าตัดสินใจและแก้ไขปัญหา เปิดใจยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น
1.การเป็นผู้นำที่ดีต้อง รู้จักตั้งคำถามเพื่อให้ลูกน้องคิดและกล้าที่จะแสดงออก 2.หากเกิดปัญหาใดๆขึ้น อย่าหาแต่คำที่ผิด ต้องหาวิธีการให้ลูกน้องรู้สึกว่าเราเข้าใจและพร้อมแก้ปัญหาไปด้วยกัน โดยใช้คำว่าเรามากกว่าเจาะจงเป็นตัวบุคคล 3.ให้คุณค่ากับสิ่งที่ลูกน้องคิด แม้มันเรื่องที่ฟุ้งฟริ่ง ก็ตามเพื่อฝึกให้เขากล้าคิดสิ่งใหม่ๆ
มีภาวะการเป็นผู้นำ กล้าตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาให้กับลูกน้องในทีมได้ทันท่วงที
รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ชื่นชมผู้ร่วมงาน การตั้งคำถามเพื่อการพัฒนา
ทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เข้าใจผู้อื่น ชื่นชมผู้ร่วมงาน เปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้แสดงความคิดเห็น และการทำงานเร่วมแก้ปัญหาเป็นทีม
-ฝึกการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่นมากขึ้น -เป็นการสร้างทีมงานให้มีอุดมการณ์ไปในทิศทางเดียวกัน -ทำให้ทีมงานมีความกล้าคิดกล้าทำกล้าที่จะนำเสนอความคิดเห็นและเข้าใจกับงานนั้นๆ มากขึ่น
รู้ทันอารมณ์ไม่ด่วนตัดสินใจ ได้เห็นมุมมองที่กว้างขึ้น ประโยชน์และจ้อดีข้อเสีย ที่จะเกิด เมื่ออคติในใจลดลงหรือหมดไป
เปิดใจ ใจกว้าง ลดอคติ ลดอีโก้ในการทำงาน รับฟังให้มากขึ้น เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ให้เราได้รู้จักเปิดใจ ใจกว้างขึ้น รู้จักการมีภาวะผู้นำหาทางออกแก้ไขปัญหาได้ ให้ทุกคนได้มีส่วนรวมความคิดกัน
การถามเพื่อพัฒนา เพื่อขอคำแนะนำและไม่ยึดติดกับสิ่งที่ผ่านมา
เรียนรู้ความหลากหลายทางความคิดที่เกิดขึ้นจากการตั้งคำถามค่ะ
ได้เข้าใจถึงการให้ และการทำงานเป็นทีม และการแบ่งปันความคิดซึ่งกันและกัน
การวางแผนการทำงานเป็นทีม มองปัญหาของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ
ได้เป็นตัวอย่างกับน้องๆ การเป็นภาวะผู้นำที่ดี การพร้อมการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การนำมาใช้กับการทำงาน
1.รู้จักเป้าหมายตนเอง 2.สอนให้รู้น้องรู้จักเป้าหมาย
เรียนรู้การปรับตัวทุกสถานการณ์ให้เข้ากับยุคดิจิทัล
ได้เรียก่ารเปลี่ยนผ่านดิจิทัล คือความสามารถในการปรับตัวขององค์กร ผู้นำ และพนักงาน ต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วอันเนื่องมาจากเทคโนโลยี และ Digtial Transformation 6ขั้น
มีเป้าหมายที่ขัดเจน สามารถเป็นตัวอย่างให้กับทีมงาน เพื่อทำให้ทุกคนมีคุณภาพมากขึ้น
เรียนรู้การเป็นแบบอย่างเป็นตัวอย่างให้ลูกน้อง และการเป็นผู้นำที่เข้าใจพนักงานเพื่อนร่วมงาน 1.การมอบหมาย 2.ให้แนวทาง 3.การสร้างให้เป็นผู้นำ
ภาวะผู้นำที่ปรับเปลี่ยนเร็ว เราต้องเตรียมตัวเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนผ่านของเทคในโลยีต่างๆ ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในยุคนี้ จะได้ไม่ตกเทรน
ภาะผู้นำที่เป็นเริ่มต้นเป็นตัวอย่างเป้นผู้ปีนบันไดให้น้องๆ ได้สอนในสิ่งที่เราทำมาก่อนให้เค้าได้ทำ และชื่นชม ส่งเสริม และมองดูความสำเร็จและเติบโตต่ไป
ต้องไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ควรตื่นตัวเพื่อพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง ,เปิดรับ เรียนรู้การปรับตัวรับสิ่งใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น
ได้ปรับตัวให้เข้ากับระบบดิจิทัล และเรียนรู้การใช้งานของอินเตอร์เน็ต บนโลกโซเชี่ยลได้มากขึ้น
การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล การนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในงานทำให้การทำงานสะดวกมากขึ้นครับ
ภาะผู้นำที่เป็นเริ่มต้นเป็นตัวอย่างเป้นผู้ปีนบันไดให้น้องๆ ได้สอนในสิ่งที่เราทำมาก่อนให้เค้าได้ทำ และชื่นชม ส่งเสริม และมองดูความสำเร็จและเติบโตต่ไป
ได้เรียนรู้ถึงกระบวนการของการเป็นผู้นำว่าเราเป็นผู้นำในระดับไหน และจะพัฒนาตัวเองเพิ่มอย่างไร
เรียนรู้เตรียมพร้อม แนวคิด การเปลี่ยนแปลงมาใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน
รับฟังและเรียนรู้จากข้อผิดพลาด ไม่ใช่พูดว่าทำไม่ได้หรอก
เรียนรู้เรื่องความคิดกับการเปลี่ยนแปลง การรับมือ และ การปรับผ่อนทางด้านอารมณ์ เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ให้ได้อย่างเหมาะสม
ได้ทราบถึงตัวเองว่าเราเป็นคนอย่างไรคิดอะไรอยู่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆค่ะ
1.การเปลี่ยนแปลงยังคงอยู่กับเราตลอดเวลา บอกตัวเองวันที่ต้องรับมือกับอะไรใหม่ๆของชีวิติว่าเราเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด 2.การเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลง ต้องสร้างที่ละเล็กละน้อย จะนำไปใช้การลดน้ำหนักของตัวเองบอกตัวเองสร้างวินัยที่ละเล็กละน้อย 3.การจัดการอารมณ์ ในทุกวันต่อจากนี้จะสร้างคลื่น Apha ให้ตัวเองทุกวันก่อนจะเปิดคอมทำงาน อิอิ
1.เรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เกิดการรับฟังผู้อื่น เรียนรู้ผู้อื่น ก่อนต่อต้าน 2.หยุดหลีกเลี่ยงความกลัวที่จะเปลี่ยนแปลง 3.การปรับสมดุลย์ทางอารมณ์ตัวเอง
ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ใช่เรื่องชั่วคราว การยกหัวไหล่ทำให้ผ่อนคลาย และเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ผู้ตั้งรับ
การเรียนรู้ทำความรู้จักตัวเองมากขึ้นรวมถึงได้ทบทวนและจัดการกับความคิดของตัวเอง
ปรับผ่อนร่างการและจิตใจจะทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายและเรียนรู้งานต่างได้เพิ่มขึ้นได้
การเรียนรู้ทำความรู้จักตัวเองมากขึ้นรวมถึงได้ทบทวนและจัดการกับความคิดของตัวเอง
กรอบคิดที่พร้อมเปลี่ยนแปลง ชอบตรงผู้ตั้งรับ เพราะคนเราต้องมีการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่ละนิด ไม่จมอยู่กับความคิดเดิมๆ และต้อง มีการตั้งคำถาม และรับฟังข้อผิดพลาดของผุ้อื่นและนำมาแชร์กัน
ได้รู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีกรอบแนวคิดแบบไหน แล้วเอาไปปรับใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น
เวลาที่สมองสามารถคิดไอเดียดีๆได้ ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่สมองผ่อนคลาย
ความคิดเรื่องการตั้งรับก่อนการเริ่มการทำงาน แต่ล่ะวัน
กรอบคิด ที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
ผ่อนคลาย
ฝึกให้เราเป็นคนรับฟังมากขึ้นเพื่อจัดการอารมณ์กับตัวเองและยอมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวในทุกๆสถานการณ์
กรอบความคิดที่พร้อมเปลี่ยนแปลง