การเดินทางภายในของจิตใจ: การสำรวจความสงบและการเติบโตทางจิตวิญญาณ

เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เป็นชุดเป้าหมายการพัฒนาระดับโลกหลังปี 2015 ที่ได้รับการรับรองจาก 193 ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2015 ครอบคลุมช่วงระยะเวลาที่ต้องบรรลุภายใน 15 ปี ได้เป็นทิศทางการพัฒนาที่ทุกประเทศที่ต้องดำเนินการร่วมกันมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2016 ไปจนถึงปี ค.ศ. 2030 โดยเอกสารที่ประเทศสมาชิกทั้งหมดลงนามรับรองเป็นพันธะสัญญานั้นเรียกว่า “Transforming Our World: the 2030 Agenda for Sustainable Development” หรือ “วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030” ฉะนั้นในบางโอกาส SDGs อาจถูกกล่าวถึงผ่านชื่ออื่นได้ทั้ง Agenda 2030 หรือ Global Goals 

เป้าหมายที่ 3: สร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดี และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย

บทความนี้ได้สะท้อนจากการเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาตนเองจากภายในพบว่า การเดินทางภายในของจิตใจคือการสำรวจและค้นพบตัวตนภายใน การเดินทางนี้ไม่มีแผนที่หรือเส้นทางที่ชัดเจน แต่เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความรู้สึก การเรียนรู้ และการเติบโตทางจิตวิญญาณ เรามักใช้เวลาและพลังงานมากมายในการสำรวจโลกภายนอก แต่บางครั้งเราก็ลืมที่จะหันกลับมามองภายในตัวเราเอง การเดินทางภายในนี้เป็นการสร้างความเชื่อมโยงกับจิตใจและจิตวิญญาณของเรา ซึ่งสามารถนำไปสู่ความสงบและความสมดุลในชีวิต

การทำสมาธิและการมีสติ หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเดินทางภายในคือการทำสมาธิ การทำสมาธิช่วยให้เราหยุดนิ่งและสำรวจความคิดและความรู้สึกของเรา การฝึกสมาธิเป็นประจำสามารถช่วยให้เรามีความชัดเจนในการตัดสินใจ ลดความเครียด และเพิ่มความสุขในชีวิต นอกจากนี้ การมีสติยังช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมใด ๆ การมีสติจะช่วยให้เรามีความรับรู้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต

เขียนบันทึก การเขียนบันทึกเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการเดินทางภายใน การเขียนบันทึกช่วยให้เราแสดงความรู้สึกและความคิดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร การเขียนสามารถเป็นเครื่องมือในการค้นหาความหมายในชีวิตและเป็นวิธีที่ดีในการสะท้อนตัวเราเอง การเขียนบันทึกทุกวันสามารถช่วยให้เรามองเห็นความเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของเราเอง

การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานและแรงบันดาลใจที่ดี การเดินทางไปยังที่เงียบสงบเช่นภูเขา ทะเลสาบ หรือป่าเขาสามารถช่วยให้เราเชื่อมโยงกับตัวเราเองได้ดีขึ้น การอยู่ในธรรมชาติช่วยให้เรารู้สึกสงบและผ่อนคลาย และสามารถเป็นที่พักพิงที่ดีเมื่อเราต้องการเวลาในการสะท้อนตัวเราเอง

การฝึกฝนความกตัญญู  ความกตัญญูคือการรับรู้และขอบคุณสิ่งดี ๆ ในชีวิต การฝึกฝนความกตัญญูสามารถช่วยให้เรามีมุมมองที่บวกต่อชีวิตและลดความเครียด เราสามารถเริ่มต้นด้วยการเขียนรายการสิ่งที่เรารู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน การฝึกฝนนี้จะช่วยให้เราเห็นคุณค่าในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ และสร้างความสุขในชีวิตประจำวัน

การพูดคุยกับตัวเอง การพูดคุยกับตัวเองเป็นการสื่อสารภายในที่สำคัญ การถามคำถามและตอบตัวเองช่วยให้เราเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น การพูดคุยกับตัวเองสามารถช่วยให้เรามีการวางแผนและตัดสินใจที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการระบายความเครียดและสร้างความมั่นใจในตัวเอง

จากบทความนี้ท่านจะค้นพบว่า มนุษย์สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองได้ผ่าน ความเชื่อ และศรัทธาที่มีปัญญาที่ผ่านการตระหนักสู่ถึง การเดินทางภายในของจิตใจเป็นกระบวนการที่ไม่มีที่สิ้นสุด มันเป็นการสำรวจและเรียนรู้ตัวเราเองอย่างต่อเนื่อง การเดินทางนี้สามารถนำพาเราไปสู่ความสงบ ความสุข และความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำสมาธิ การเขียนบันทึก การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ การฝึกฝนความกตัญญู หรือการพูดคุยกับตัวเอง ทุกวิธีล้วนเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสำรวจและค้นพบตัวตนภายในได้อย่างลึกซึ้ง คนเกิดคุณค่าและความหมายของตนเอง 

แล้วท่านผู้อ่านมีการพัฒนาการเดินทางภายในของท่านอย่างไร ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ 

nattila ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ จังหวัดปทุมธานี
เขียน 26 พ.ค. 2567 13:14
ปรับแก้ 09 มิ.ย. 2567 13:30
เปิดอ่านแล้ว : 103 ครั้ง